“โบ TK” เฮิร์ตหนักแยกทางสามี เผยสาเหตุปิดฉากชีวิตคู่ 11 ปี
“เต้ย จรินทร์พร” โสดแล้ว! เลิก “เจโต ปณิธิ” ยันจบด้วยดี
ย้อนผลงานสาวงาม “ไทยแลนด์” บนเวที Miss Universe ก่อนลุ้นมงสาม “แอนโทเนีย” คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ทำเอาแฟนเพลงที่ติดตาม “โบ-รัตนาวี สุวิพร” หรือ “โบ TK” ช็อกไปตามๆ กัน เมื่อเจ้าตัวได้เปิดใจกลางรายการแฉ ยอมรับว่าได้เลิกรากับสามีนอกวงการแล้ว ปิดฉากรัก 14 ปี
โดยแต่งงานใช้ชีวิตคู่มานาน 11 ปี และคบหาเป็นแฟน 3 ปี โดยนักร้องสาวได้เล่าถึงสาเหตุที่ต้องแยกทางกับอดีตคู่ชีวิตว่า
“เลิกกันตั้งแต่กุมภาพันธ์ เรื่องราวนานแล้ว ทีมงานบอกว่าไม่มีอักษรย่ออะไรเลย ก็คือเราไม่ได้เล่าให้ใครฟัง แต่เรามีกลุ่มเพื่อนที่สนิท ที่เราปรึกษาเรามีครอบครัว เรารู้สึกว่าพอแล้ว
ไม่อยากแชร์ความทุกข์ให้สื่อรู้ เราแฮปปี้แล้ว วันนี้ที่อยากจะบอก เพราะเรารู้สึกว่าเมื่อเลิกกัน ต่างคนต่างมีอิสระกัน มันมีเรื่องเยอะว่าจะต้องมีคนส่งรูปมา ไม่ต้องบอกเราแล้ว บางทีเราอึดอัดที่จะโดนคนอื่นถามว่าแฟนไปไหน วันนี้ไม่ต้องมีใครส่งรูปแล้ว หรือเห็นโบอยู่กับใครก็ตาม ไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องไปบอกใคร ไม่ต้องเชื่อมโยงกันแล้ว
11 ปี ตัวติดกันมาก ถามว่าเกิดอะไรขึ้น โบว่ามีสาเหตุเหมือนคู่รักทุกคู่แหละ ตอนเริ่มแต่งงานกันก็อยากให้มันดี และตลอดไป มีเป้าหมายในชีวิตที่ไปด้วยกันได้ แต่พอถึงวันนึงมีปัญหาในความสัมพันธ์ แล้วมันไปต่อไม่ได้ เราก็คิดว่าเราพยายามที่สุดแล้วทั้งคู่ มันก็ได้แค่นั้น
เอาเป็นว่า 11 ปีเขาดีทุกอย่าง โบก็ทำดีที่สุด เราต่างคนต่างอุทิศชีวิตให้กัน ซึ่งมันก็ดี แต่ ณ วันนึงที่เรารู้ว่ามันอาจไม่ใช่แล้ว หรือตลอดมามันอาจไม่ใช่ก็ได้ เราอยู่ด้วยกันตลอด 24 ชม. บางทีมีบางมุมที่เรารู้สึกว่าเราอาจไม่ได้รู้จักเขาเลยก็ได้ไม่ได้รู้จักในตัวตนเขาเลยก็ได้ โบว่าทุกคู่น่าจะมีมุมนี้ เราไม่รู้ เพราะที่ผ่านมามันก็ดีมาตลอด ไม่เคยทะเลาะด้วยนะ
วันตัดสินใจก็ทะเลาะกันครั้งแรก และเขาก็ไปเลย (หัวเราะ) มันมีเรื่องราวหลายๆ เรื่อง ไม่ใช่เรื่องเดียวแล้วเลิกเลย ภาพที่เห็นเราก็คิดว่ามันจริง มุมเราก็ยังสวยงาม แต่มีมุมที่เราไม่รู้ เอาเป็นว่าไม่ควรที่จะเกิดขึ้น เราคิดว่าถ้าความสัมพันธ์มันไปต่อไม่ได้ก็ต้องคุยกัน โบว่าไม่ใช่หมดโปรหรอก ถ้าหมดโปรคงสั้นๆ มากกว่า แต่ความคิดเขาก็ตอบแทนไม่ได้ แต่ส่วนที่โบเจอ โบก็งงเหมือนกัน เหมือนที่ทุกคนรู้ว่า อ้าว เลิกกันเหรอ เป็นไปได้ไง ถามว่ามีการคบซ้อนไหม มันไม่ใช่มีเรื่องมือที่สองที่สาม มันคือสองคน ชีวิตคู่คือสองคน ถ้าจะมีเรื่องราวใดๆ ก็ตาม ถ้าสองคนรักกัน มันไปต่อได้อยู่แล้ว
วันที่ทะเลาะ มีหลายๆ ฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง มีจุดที่คุยกันเองไม่ได้เหมือนกัน จุดแตกหักที่เราไม่ดี มันไม่มี มันคิดไม่ออกค่ะ มันเป็นแค่วันเดียว มันแปลกมากๆ เราก็ลองห่างกันก่อน หาวิธีที่มันดีหลังจากแยกย้ายก็พยายามหลายๆ อย่าง แต่ก็ไม่เป็นผล ไปต่อไม่ได้จริงๆ มันเป็นเรื่องชีวิตคู่ ต้องคิดไปในทางเดียวกัน เป้าหมายต้องไปในทางเดียวกัน ในเมื่อเป้าหมายไม่เหมือนกันแล้ว มันก็คงยาก เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก
ตอนแยกกันอยู่ มันก็ไม่เวิร์กอยู่แล้ว ช่วงนั้นก็แย่ ก็เมาแหละ เราก็ขาดสตินิดหน่อย จากที่เราไม่ได้เป็นแบบนั้น เราโทร.หาเขาเยอะมาก เขาเลยบล็อกเรา (หัวเราะ) หลังจากนั้นสภาพจิตใจก็พัง เป็นเรื่องที่เสียใจมากๆ ต้องมีครอบครัวที่ซัพพอร์ต เข้าใจ มีเพื่อนที่เราพูดคุยได้ทุกเรื่องที่เราไว้ใจ มีพี่ๆ ให้คำแนะนำ ข้อดีคือไม่มีใครบังคับโบ โบเป็นคนที่ไม่ยอมรับความจริง ความจริงคือมันต้องเลิกกัน เราก็คิดว่าไม่จริงๆ
เลยต้องปรึกษาหมอ หาจิตแพทย์ นอนไม่ได้ มีอาการแพนิก ผอมลง เครียด พยายามหาทางออกด้วยตนเอง ไปออกกำลังกาย กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เราคิดว่าอกหักเรื่องเล็กสำหรับเรา เราต้องรอดสิ แต่สุดท้ายมันไม่ได้ ก็ไปปรึกษาจิตแพทย์ ช่วยเรื่องการนอน ยาคลายเครียดบ้าง และมีเรื่องการรักษา หมอบอกว่าอย่างโบ เดี๋ยวโบก็หาย ตอนนี้ก็เลิกยา คลีน มันไม่ได้ป่วยทางจิต มันเป็นความเครียด เหมือนไม่ยอมรับความจริง พอวันที่ยอมรับความจริงได้ มันก็ไปต่อได้
วันนี้โสด จิตใจแข็งแรงดีแล้ว แต่ถามว่าเศร้าไหมก็มีบ้าง ระยะเวลามันนาน ความทรงจำมันเยอะ แต่ก็เป็นอดีตไปแล้ว คิดว่าเป็นเพื่อนได้ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ทำงานร่วมกัน จริงๆ เราก็อยู่ในโบสถ์ ยังไงวงการมันเล็ก วันนึงก็ต้องมาเจอกัน ซึ่งโบก็คิดว่าถึงเวลานั้นมันก็เป็นเพื่อนกันได้แหละ แต่ตอนนี้ยังไม่พร้อม
เราอยู่ด้วยกันตลอดเวลา คิดว่ารู้จักเขา แต่อาจไม่ได้รู้จักเขาเลยก็ได้ อะไรก็ไม่แน่นอน การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ตลอด มันต้องยอมรับความจริง เราคิดว่าสิ่งที่เราเห็น สิ่งที่เราเจอ ก็คือความจริงที่เกิดขึ้นในโมเมนต์ตอนนั้นจริงๆ มันไม่มีอะไรที่ไม่ดี ตอนใช้ชีวิตด้วยกัน โบก็คิดว่าเขาก็รักโบมาตลอด เราก็รักเขามาตลอด เราทั้งคู่ได้ทำดีที่สุดในชีวิตคู่ของเราแล้ว
แต่ ณ ปัจจุบัน สิ่งที่เกิดขึ้น มันก็เกิดขึ้นไปแล้ว มันเปลี่ยนอะไรไม่ได้ ตอนนี้เกิดขึ้นแล้ว ก็โฟกัสที่อนาคตว่าจะทำยังไงต่อ วันนี้ถึงออกมาพูดว่าจะไปต่อแล้ว ชีวิตจะมาอยู่กับคำถามเดิมๆ ความสงสัย การพูดวนอยู่แต่กับเรื่องนี้ว่าไปไหน โบรู้สึกว่ามันไร้สาระสำหรับชีวิตโบ
ช่วงนอนไม่หลับ กินไม่ได้ ก็ผอมลง 5 กิโล แต่ก็โอเค เราเห็นความรักของครอบครัว ความรักของเพื่อน โบก็คิดว่าถ้าเรื่องนี้เกิดกับคนไม่มีเพื่อน ไม่มีทางออก ไม่มีคนให้ปรึกษา มันแย่มากเลยนะ เพื่อนทุกคนก็ช็อก แต่ก็ต้องให้ผ่านไป โบรู้สึกว่าเราต้องยอมรับกับตัวเองว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ ยอมรับว่าชีวิตคู่ไปต่อไม่ได้มันก็เท่านั้น
ตอนที่หมอแนะนำให้กินยานอนหลับ คลายเครียด พักผ่อนได้ เพราะเราคิดว่าเราหลับ แต่ในหัวเราไม่ได้หลับ แล้วเป็นมานาน ปัญหาเรื่องสารเคมีที่เป็นอยู่แล้ว เพราะไม่ได้นอน ต้องแก้ปัญหาไปทีละจุด กินอยู่ประมาณ 6 เดือน โบว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกในการปรึกษาจิตแพทย์
ถ้ามีเรื่องกระทบกับเราแรงๆ หมอบอกว่ายิ่งง่ายเลยนะ เพราะมีปัจจัยและสาเหตุเกิดขึ้น ก็แก้ไปทีละขั้นตอน แต่กว่าจะผ่านมาได้ก็หนักอยู่ ตอนนี้มูฟออนกับความสัมพันธ์ 11 ปีต้องยอมรับว่ามันยากจริงๆ เราคบ 3 ปี แต่งงาน 11 ปี โบเลือกแล้วเลือกอีก คิดว่าถูกแล้ว ดีแล้ว”