ชาวจีนเห็นต่าง บังคับใช้กฎหมาย “ส่งเสริมความรักชาติ”

หนังสือพิมพ์ People’s Daily ของทางการจีน รายงานว่า ร่างกฎหมายการศึกษาเรื่องความรักชาติ (Patriotic Education Law) ที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบเมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว เริ่มมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการหลังเข้าสู่ปี 2024 มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกิดบรรยากาศความรักชาติในสังคม

เจิง เจียนลี่ รองผู้อำนวยการแผนกโฆษณาชวนเชื่อส่วนกลาง ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลเรื่องการโฆษณาและเซ็นเซอร์ของพรรคคอมมิวนิสต์ ระบุว่า มีความจำเป็นที่ต้องรวมความคิดและพลังของคนในสังคมเพื่อสร้างชาติที่เข้มแข็งและฟื้นฟูประเทศ

หลายชาติยุโรปหยุดมอบเงินหนุน UNRWA เหตุมีเจ้าหน้าที่เอี่ยวกลุ่มฮามาส

ออกเดินทางแล้ว! “Icon of the Seas” เรือสำราญใหญ่ที่สุดในโลก

ไฟไหม้ครั้งใหญ่กลางเมืองลิเวอร์พูล โชคดีไร้ผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต

ความพยายามผลักดันเรื่องความรักภักดีในชาติและพรรคคอมมิวนิสต์ ไม่ใช่เรื่องใหม่ในจีน ที่จริงแล้ว ความรักชาติและโฆษณาชวนเชื่อหลอมรวมอยู่ในการศึกษา วัฒนธรรมองค์กร และชีวิตของผู้คน มาตั้งแต่สาธารณรัฐประชาชนจีนก่อตั้งขึ้นเมื่อเกือบ 75 ปีก่อน

แต่ช่วงปลายปี 2022 เราได้เห็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลยในยุคของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เมื่อประชาชนชาวจีนในหลายเมืองใหญ่ทั่วประเทศ รวมถึงที่อยู่ในต่างประเทศ เช่น อังกฤษ สหรัฐฯ และแคนาดา ลุกฮือประท้วงนโยบาย zero-covid ของรัฐบาล

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ และอัตราว่างงานของคนหนุ่มสาวที่พุ่งทุบสถิติ เข้ามาผสมโรง ยิ่งเติมเชื้อไฟให้ประชาชนไม่พอใจมากขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญมองว่า รัฐบาลปักกิ่งตั้งใจใช้กฎหมายนี้ ปลุกกระแสความรักชาติขึ้นมาอีกครั้ง หลังเกิดกระแสต่อต้านอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งหลังจากบังคับใช้กฎหมายนี้แล้ว ประชาชนชาวจีนจะไม่สามารถพูดหรือกระทำการลบหลู่ดูหมิ่นสัญลักษณ์สำคัญอย่างธงชาติ รวมถึงวีรบุรุษและผู้ที่สละชีวิตให้กับประเทศได้อีกต่อไป

ภายใต้กฎหมายฉบับใหม่ สถานศึกษาทุกระดับชั้นต้องรวมเรื่อง “ความรักชาติ” ไว้ในหลักสูตร และต้องบูรณาการเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรักชาติให้เข้ากับวิชาต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีข้อบังคับให้โรงเรียนจัดทริปทัศนศึกษาไปยังสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมอย่าง พิพิธภัณฑ์ และห้องสมุด เพื่อกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกรักชาติ

แม้แต่บรรดาบริษัทเอกชน และผู้คนในทุกสาขาอาชีพ ก็ต้องบรูณาการเรื่องความรักชาติไว้ในแผนปฏิบัติงาน รวมถึงหลักสูตรอบรมพนักงานของบริษัท

นอกจากนี้ กฎหมายยังระบุว่า ครอบครัวควรมีส่วนในการปลูกฝังเรื่องความรักในแผ่นดินเกิด และสนับสนุนให้บุตรหลานทำกิจกรรมที่แสดงความรักชาติ

กฎหมายนี้ยังครอบคลุมไปถึงการส่งเสริมความรักชาติในกลุ่มชาวฮ่องกง มาเก๊า ยกระดับการโฆษณาและให้ความรู้เรื่องการรวมจีน ยกระดับการสื่อสารกับชาวจีนโพ้นทะเล รวมถึงชาวไต้หวัน

 ชาวจีนเห็นต่าง บังคับใช้กฎหมาย “ส่งเสริมความรักชาติ”

โดยทางการจีนจะจับตาตรวจสอบเรื่องนี้ และหากพบว่าประชาชนในพื้นที่ใดไม่ยอมทำตามข้อบังคับ ก็จะพิจารณามาตรการตอบโต้ ซึ่งรวมถึงการคว่ำบาตร

อย่างที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ซึ่งอยู่ภายใต้หลักการ “1 ประเทศ 2 ระบบ” จะเห็นว่ารัฐบาลปักกิ่งมีความพยายามแก้กฎหมาย เพื่อให้แน่ใจว่า "บุคคลที่รักชาติ" เท่านั้น ได้มีโอกาสเป็นผู้บริหาร และล่าสุด ฮ่องกงยังมีแผนจะตั้งหน่วยงานด้านการศึกษาความรักชาติ เช่นเดียวกับมาเก๊า ที่จะยกระดับมาตรการส่งเสริมความรักชาติ

กฎหมายการศึกษาเรื่อง "ความรักชาติ" ได้รับความสนใจอย่างมากในเวยป๋อ โซเชียลมีเดียของจีน โดยแฮชแท็กที่เกี่ยวกับกฎหมายฉบับนี้ มีคนเข้าไปรับชมแล้วเกือบ 100 ล้านครั้ง และมีคนตั้งกระทู้สนทนากันมากกว่า 11,000 กระทู้ ซึ่งในช่วงที่ร่างกฎหมายผ่านความเห็นชอบเมื่อปีที่แล้ว หัวข้อนี้ยังเป็นหัวข้อที่มีคนค้นหามากที่สุดด้วย

ในส่วนของปฏิกิริยาจากชาวเน็ต มีทั้งคนที่สนับสนุน และคนที่ตั้งคำถามว่า ความรักชาติเป็นสิ่งที่บังคับกันด้วยกฎหมายได้หรือไม่คำพูดจาก สล็อตฝ

ชาวเน็ตหลายคนขุดประวัติของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์มาแฉ โดยเฉพาะพวกที่สมาชิกครอบครัวย้ายไปอยู่สหรัฐฯ หรือกำลังศึกษาต่อในสหรัฐฯ พร้อมตั้งคำถามว่านี่เรียกว่าความรักชาติหรือไม่

ส่วนในฝั่งผู้ปกครอง หลายคนก็ตั้งข้อสงสัยว่า การเรียนของลูก ๆ จะได้รับผลกระทบจากกฎหมายใหม่นี้หรือไม่

ผู้ปกครองท่านหนึ่งในกรุงปักกิ่ง ที่บอกเพียงว่านามสกุล ฟ่าน กังวลว่าลูก ๆ จะไม่ได้พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ในโรงเรียน เพราะลูกคงไม่ได้รับอนุญาตให้ตั้งคำถามเกี่ยวกับประวัติศาสตร์จีน

แต่ก็ไม่ใช่ผู้ปกครองทุกคน จะกังวลใจในเรื่องนี้ และมีไม่น้อยที่สนับสนุนกฎหมายการศึกษาเรื่อง "ความรักชาติ" อย่างเต็มที่

ลี่ ย่ง ผู้ปกครองวัย 42 ปี ที่ส่งลูกสาวเข้าเรียนโรงเรียนรัฐในกรุงปักกิ่ง บอกว่า ตนเองไม่เข้าใจว่ามันผิดตรงไหนที่สอนให้เด็กรักชาติ ตรงกันข้าม เขากลับกลัวว่าเด็กรุ่นนี้จะเติบโตไปแบบไม่มีคุณธรรม เพราะตอนนี้ สังคมจีนพัฒนาไปแบบก้าวกระโดด ทำให้หนุ่มสาวชาวจีนยึดค่านิยมทางวัตถุและทุนนิยมมากขึ้นกว่าคนรุ่นพ่อแม่

นายลี่ ระบุว่า เด็กและวัยรุ่นสมัยนี้สนใจแต่เรื่องเงิน เพราะได้รับอิทธิพลจากสิ่งที่เห็นในทีวีและอินเทอร์เน็ต จนบูชาแต่ดารานักร้องและอินฟลูเอนเซอร์

นายลี่บอกว่า ถ้าจะมีอะไรที่เขาจะกังวลเกี่ยวกับกฎหมายใหม่นี้ ก็น่าจะมีแค่ปริมาณการบ้านของลูกที่อาจจะเพิ่มขึ้น เพราะทุกวันนี้เด็กนักเรียนจีนก็เรียนกันหนักมากพอแล้ว

ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดแข็งค่า คาดการณ์เฟดคงดอกเบี้ยเดือนหน้า

ดอลลาร์ปรับตัวแคบเทียบสกุลเงินหลัก ขณะที่นักลงทุนจับตาทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย. และเทน้ำหนักมากกว่า 50% ในการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน พ.ย. หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง จนกว่ามีความมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวลงอย่างยั่งยืนไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้

ค่าเงินบาทวันนี้แข็งค่า ตลาดคาดเฟดยังคงดอกเบี้ในการประชุมครั้งหน้า

ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือน ก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จาก Conference Board

เมื่อวานนี้ตลาดพันธบัตรนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 909 ล้านบาท และ ตลาดหุ้นไทยขายสุทธิ 1,528 ล้านบาท

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) แนะนำผู้นำเข้าควรซื้อเงินตราต่างประเทศเพื่อปิดความเสี่ยง และผู้ส่งออก แนะนำขายเงินตราต่างประเทศที่เหนือระดับ 35.30 บาท/ดอลลาร์

ราคาทองวันนี้ ปิดตลาดบวก 100 บาท ต่างประเทศขยับ-บาทอ่อน คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

“เศรษฐา” เผยโผ ครม.นิ่งแล้ว ก่อนหัวเราะ “ก็รู้อยู่แล้ว” หลังถามชื่อ รมว.ท่องเที่ยวฯ

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาท ในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.85-35.50 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 35.10 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 34.84-35.42 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทกลับมาแตะระดับแข็งค่าสุดรอบ 2 สัปดาห์ขณะที่ภาพทางการเมืองชัดเจนมากขึ้น ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ดัชนีดอลลาร์แตะจุดสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย. เงินยูโรร่วงลงหลังตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอของยูโรโซนส่งผลให้ตลาดคาดว่าธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)จะยุติการปรับขึ้นดอกเบี้ย ทางด้านประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)เน้นย้ำในงาน Jackson Hole Symposium ว่าเงินเฟ้อยังคงสูงเกินไป

 ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดแข็งค่า คาดการณ์เฟดคงดอกเบี้ยเดือนหน้า

อย่างไรก็ตาม เขาเห็นว่าการตัดสินใจด้านนโยบายจะเป็นไปอย่างระมัดระวัง ส่วนเงินปอนด์ซื้อขายที่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 สัปดาห์ ขณะที่ตลาดลดคาดการณ์ดอกเบี้ยปลายทางของธนาคารกลางอังกฤษ(บีโออี)หลังตัวเลขกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นและพันธบัตรไทยสุทธิ 1,204 ล้านบาท และ 4,706 ล้านบาท ตามลำดับ

สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี ระบุว่า นักลงทุนจะติดตามข้อมูลเงินเฟ้อ PCE และการจ้างงานของสหรัฐฯ ขณะที่เฟดตอกย้ำว่าการดำเนินนโยบายจะขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจเป็นสำคัญ โดยเราคาดว่าเงินดอลลาร์จะย่ำฐานในโซนที่แข็งค่าเล็กน้อยในระยะนี้

ทั้งนี้ ตลาดสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยบ่งชี้ว่ามีความน่าจะเป็นราว 80.5% ที่เฟดจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50% และมีโอกาส 19.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 25bp ในการประชุมวันที่ 19-20 ก.ย. นอกจากนี้ ความอ่อนแอของเศรษฐกิจจีนและยุโรปมีแนวโน้มจำกัดการฟื้นตัวของราคาสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์

สำหรับประเด็นในประเทศ กรุงศรีประเมินว่าความกังวลเกี่ยวกับภาวะดอกเบี้ยสูงยาวนานในสหรัฐฯและเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแรงทำให้นักลงทุนลังเลที่จะเพิ่มสถานะการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในตลาดกำลังพัฒนารวมถึงสินทรัพย์สกุลเงินบาท ขณะที่จีดีพีไตรมาส 2/66 ของไทยขยายตัวเพียง 1.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าคาดมาก สะท้อนการส่งออก การลงทุนและการใช้จ่ายภาครัฐบาลที่ลดลง โดยสภาพัฒน์ลดประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้เป็น 2.5-3.0% ส่วนกระทรวงพาณิชย์รายงานว่าส่งออกเดือนก.ค. ลดลง 6.2% หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่สิบ เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ขณะที่ยอดนำเข้าเดือนก.ค.หดตัว 11.1% ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้า 1.98 พันล้านดอลลาร์

ชาวนาห่วง เอลนีโญ ทำข้าวยืนต้นตาย ผลผลิตน้อย ซ้ำ ปชช.ต้องซื้อข้าวแพงขึ้น

ต้นกล้าข้าวหอมมะลิ จำนวน 3 ไร่ ในนาข้าวของนาย สมพร แจ่มทองหลาง อายุ 41 ปี เกษตรกรในอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา บอกว่า ในปีนี้ตนเองลงทุนปลูกข้าวนาปี และเริ่มประสบกับปัญหาฝนทิ้งช่วง ต้นข้าวที่ปลูกไว้เริ่มขาดน้ำ เพราะพื้นที่ทำนาปลูกข้าว เป็นพื้นที่นาดอน ไม่มีแหล่งน้ำไหลผ่าน รอคอยเพียงน้ำฝนที่จะตกลงมาตามฤดูกาลเท่านั้น

หากใน 1-2 เดือนข้างหน้า ประสบกับปัญหา ฝนทิ้งช่วงอีก ก็จะทำให้ผลผลิตข้าวได้รับความเสียหายทั้งหมดอย่างแน่นอน

 ชาวนาห่วง เอลนีโญ  ทำข้าวยืนต้นตาย ผลผลิตน้อย ซ้ำ ปชช.ต้องซื้อข้าวแพงขึ้น

เพราะตนเองไม่ได้มีการวางแผนรับมือภัยแล้ง เนื่องจากในทุกๆปีที่ผ่านมา การทำนาปลูกข้าว จะมีฝนตกลงมาตามฤดูกาลทุกครั้ง แต่มาในปีนี้ หลังทางภาครัฐได้ออกมาประกาศแจ้งเตือนเกษตรกรให้เตรียมพร้อมรับมือ ปรากฏการณ์เอลนีโญ หรือฝนทิ้งช่วง ในช่วงกลางเดือนหน้า ตนเองก็รู้สึกกังวลว่าต้นข้าวจะได้รับความเสียหาย เพราะไม่มีน้ำในการปลูกข้าว พื้นที่ตรงนี้เป็นนาดอน คงต้องปล่อยให้ต้นข้าวยืนต้นตาย

อุตุฯ คาดปีนี้แนวโน้มสูงเกิดปรากฎการณ์“เอลนีโญ” เตรียมรับมือฝนทิ้งช่วง คำพูดจาก สล็อตวอเลท

“เอลนีโญ” เริ่มแล้ว! เตรียมรับปีที่โลกจะร้อนสุดเท่าที่เคยมีมา

สอดคล้องกับ นายวิษณุ อรรถวานิช อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระบุว่า มีสัญญาณที่ชัดเจนว่าในช่วงปลายปีนี้ ประมาณเดือนตุลาคม จะเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งอาจลากยาวไปจนถึงช่วงกลางปีหน้า ส่งผลให้ประเทศไทยประสบภัยแล้งและอากาศร้อนจัดกว่าปกติ ปัจจุบันเกษตรกรไทยปลูกข้าว 3 ล้าน 6 แสนครัวเรือน โดยข้าวนาปรังมีพื้นที่เพาะปลูกราว 10 ล้านไร่ คาดการณ์ว่าปรากฏการณ์เอลนีโญจะทำให้ผลผลิตข้าวนาปรังลดลง 50% เมื่อเทียบกับปีก่อน หรือหายไปหลายร้อยล้านตัน เพราะอากาศที่ร้อนและแล้งทำให้ผลผลิตน้อย ซึ่งจะกระทบทั้งห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ชาวนา ผู้ประกอบการ ไปจนถึงผู้บริโภคที่อาจต้องซื้อข้าวในราคาแพงขึ้น

นายวิษณุ ยังบอกว่า มูลค่าความเสียหายจากเอลนีโญเพิ่มขึ้นทุกปี ดังนั้น จึงต้องรีบเตรียมรับมือ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น หาวิธีเก็บกักน้ำในช่วงหน้าฝนนี้ให้ได้มากที่สุด เกษตรกรควรเรียนรู้การทำการเกษตรแบบเท่าทันภูมิอากาศ เช่น ปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย ปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง หรือทำเกษตรแบบผสมผสาน ขณะที่ภาครัฐควรใช้งบประมาณขุดลอกคูคลองให้ลึก รวมถึงขุดสระสาธารณะบนพื้นที่ที่ยังไม่มีแหล่งน้ำสาธารณะ เพราะปัจจุบันพื้นที่ชลประทานมีเพียง 1 ใน 5 ของพื้นที่ทำการเกษตรทั้งหมด ตลอดจนสนับสนุนการวิจัยเพื่อหาแนวทางเกษตรเท่าทันภูมิอากาศที่เหมาะกับบริบทของแต่ละพื้นที่ และสนับสนุนการพัฒนาสายพันธุ์พืชที่ทนร้อน ทนแล้ง รวมถึงนโยบายด้านการเกษตรต้องเปลี่ยนจากที่เน้นการเยียวยา เป็นป้องกันปัญหา

จีดีพีไทยไตรมาส 3 โตต่ำ 1.5% จากส่งออกหดตัวหนัก ฉุดภาคการผลิตวูบ

ท่องเที่ยวพระเอกดันเศรษฐกิจ "กสิกรไทย" คงเป้า จีดีพีไทยปี 66 โต 3.7%

กรุงศรี หั่นเป้า GDPไทย ปีนี้66 เหลือ 3.3% เหตุรัฐใช้จ่ายลด-การลงทุนล่าช้า

สภาพัฒน์ แนะปรับโครงสร้างใหม่เศรษฐกิจไทย หนุนโตระยะยาว มองเงินดิจิทัลยังไม่ชัด

เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2566 สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี (GDP) ในไตรมาสที่ 3 ปี 66 ขยายตัว 1.5% YoY (ต่ำกว่าที่นักวิเคราะการณ์ที่2.2%)ชะลอตัวลงจาก 1.8% YoYในไตรมาสก่อนหน้า โดยปัจจัยหลักมาการส่งออกสินค้าลดลง การผลิตในประเทศลดลง รวมถึงการอุปโภคภาครัฐลดลง ในขณะที่ภาคบริการรับการยังคงขยายตัวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้รวม 9 เดือนแรกของปี 66 GDP ไทย ขยายตัว 1.9%

โดยในด้านส่งออกสินค้า ลดลง 3.1% เป็นการลดลง 3 ไตรมาสติดต่อกันของปีนี้ จากการลดลงของการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มชิ้นส่วนและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ รวมถึงสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญ ๆ เช่น น้ำมันปาล์ม เครื่องปรับอากาศ ผลิตภัณฑ์โลหะ และเคมีภัณฑ์และปิโตรเคมี

ด้านการนำเข้า ลดลง 11.8% จากการนำเข้าวัตถุดิบลดลง โดยเฉพาะการนำเข้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และแผงวงจรรวม

ด้านการผลิต ขยายตัว 1.5% ชะลอลงจาก 1.8% ในไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลจากภาคเกษตรขยายตัวลดลง และภาคอุตสาหกรรมลดลง 2.8% เนื่องจากความต้องการสินค้าในต่างประเทศลดลง

ด้านการอุปโภคภาครัฐลดลง 4.9% จาก 4.3% ในไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากในปีนี้ไม่มีการโอนเงินค่ารักษาพยาบาลโรคโควิด-19

ทั้งนี้ สศช.ประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 66 จะเติบโต 2.5% และในปีหน้า 67 คาดว่าจะเติบโตอยู่ที่ 2.7-3.7% จากการกลับมาขยายตัวของภาคการส่งออก การลงทุนภาคเอกชน การอุปโภคภายในประเทศ และการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว

ขณะที่ในปี 67 ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากกระบวนการงบประมาณปี 2567 ของรัฐบาลที่ล่าช้า ภาระหนี้ของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจยังอยู่ในเกณฑ์สูง ผลกระทบจากภัยแล้งส่งต่อการผลิตภาคเกษตรกร รวมถึงเศรษฐกิจและการค้าโลกชะลอตัว

ด่วนคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง! 4 คนร้ายบุกยิงนักเรียนช่างภายในซ.ระนอง 2 เสียชีวิต 1 ราย

โดดเด่นบนเวที Miss Universe! “ชุดเทพธิดาอาณาจักรอยุธยา“ ถูกเลือกลงหนังสือพิมพ์ ”เอลซัลวาดอร์“

มอเตอร์เวย์ M81 “บางใหญ่ – กาญจนบุรี” เตรียมเปิดทดลองใช้ฟรีปลายปี

 จีดีพีไทยไตรมาส 3 โตต่ำ 1.5% จากส่งออกหดตัวหนัก ฉุดภาคการผลิตวูบ

WHO เตือนประชากรโลกกว่า 1 พันล้านคนน้ำหนักเกินมาตรฐาน

องค์การอนามัยโลก (WHO) และกลุ่มนักวิจัยระหว่างประเทศเปิดเผยผลการศึกษาชิ้นใหม่ที่อาศัยเก็บรวบรวมข้อมูลผู้คนมากกว่า 220 ล้านคนในกว่า 190 ประเทศ และมีการประมาณการว่า อัตราการเกิดโรคอ้วนในผู้ใหญ่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในช่วงปี 1990-2022 และเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าตัวในเด็กและวัยรุ่นที่มีอายุระหว่าง 5-19 ปี

ขณะที่จากการวิเคราะห์พบว่า ในช่วงเวลาเดียวกันพบสัดส่วนของผู้ที่น้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐานในเด็กผู้หญิง เด็กผู้ชายและผู้ใหญ่ต่างลดลงราว 1 ใน 5 และ 1 ใน 3 ตามลำดับ

ชาวรัสเซียนับพันร่วมพิธีศพ “นาวาลนี” อดีตผู้นำฝ่ายค้านผู้ล่วงลับ

เปิดสาเหตุคนจีนอพยพเข้าสหรัฐอเมริกา ถึงแม้เสี่ยงตายก็ยอม

เนปาลออกกฎใหม่ ใครจะปีนเขาเอเวอเรสต์ต้องเช่าชิปติดตามตัว

ทั้งนี้จากผลการศึกษาพบว่า โรคอ้วนได้เกิดขึ้นในผู้คนจำนวนมาก และพบบ่อยกว่าคนที่มีน้ำหนักน้อยกว่ามาตรฐานในประเทศส่วนใหญ่ รวมถึงประเทศที่มีรายได้น้อย และปานกลางที่เคยต่อสู้กับภาวะการขาดสารอาหารมาก่อนด้วย

ฟรานเซสโก แบรนกาผู้อำนวยการฝ่ายโภชนาการขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่าโรคอ้วน หรือโรคที่มีน้ำหนักตัวน้อยเกินไปถือเป็นภาระสองเท่าของภาวะทุพโภชนาการขณะที่ในอดีตเราอาจคิดว่าภาวะโรคอ้วนเป็นปัญหาของคนมีฐานะเท่านั้น แต่ปัจจุบันโรคอ้วนกลายเป็นปัญหาระดับโลกไปแล้ว

 WHO เตือนประชากรโลกกว่า 1 พันล้านคนน้ำหนักเกินมาตรฐาน

"อัตราโรคอ้วนได้เพิ่มขึ้นทุกประเทศ หรือเกือบทุกประเทศในโลก มีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่สามารถรักษาอัตราโรคอ้วนไว้ได้ที่ระดับเดียวกับเมื่อ 30 ปีก่อน แต่โดยทั่วไปแล้วมีการเพิ่มขึ้นอย่างมากในประเทศที่มีรายได้สูง และในประเทศที่มีรายได้น้อย ดังนั้นเราจึงเห็นการเพิ่มขึ้นอย่างมากของอัตราโรคอ้วนในแอฟริกาเหนือ ตะวันออกกลาง อเมริกาใต้ และในหมู่เกาะแปซิฟิก" แบรนกากล่าว

ผู้อำนวยการฝ่ายโภชนาการขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้น เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลง 2 อย่าง คือ ระบบอาหาร ณ ปัจจุบันที่มีอาหารแปรูรูป หรืออาหารที่มีการใช้ไขมัน น้ำตาล และเกลือสูง มากขึ้น และอาหารเหล่านี้มีราคาถูกลงมาก และการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการออกกำลังกาย ของผู้คนคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

สำหรับคนที่ประสบปัญหาเป็นโรคอ้วนเสี่ยงต่อการเสียชีวิตและความพิการก่อนวัยอันควร เนื่องจากโรคดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และไตในระยะเริ่มแรก และปัญหาสุขภาพร้ายแรงอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนการมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานอย่างรุนแรงอาจส่งผลเสียต่อพัฒนาการของเด็ก และภาวะที่รุนแรงที่สุดอาจทำให้ผู้คนอดอยากจนเสียชีวิตได้

จดหมายเปิดผนึก แบงก์ชาติ ส่งถึง คลัง ชี้แจง เงินเฟ้อหลุดกรอบเป้าหมาย

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และประธานคณะกรรมการนโยบายการเงิน สส่งจดหมายเปิดผนึกถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงการเคลื่อนไหนของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 12 เดือนที่ผ่านมาสูงกว่าขอบบนของกรอบเป้าหมายนโยบายการเงิน

บ้านหรู 10 ล้านขึ้น แห่ลดราคา ทั้งในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล

5 สินค้าความงามของไทย ส่งออกปัง! ยอดฮิตใน 5 ตลาดต่างประเทศ

โดย เมื่อวันที่ 29 มี.ค. กนง.ประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 12 เดือนข้างหน้า (ไตรมาส 2/2566 ถึง ไตรมาส 1/2567) จะอยู่ที่ 2.6% ในกรอบเป้าหมาย แต่ปรากฏว่า

เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ประทรวงพาณิชย์เปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปเดือน มี.ค.2566 อยู่ที่ 2.83% สูงกว่ากรอบที่ตั้งไว้ โดยปัจจัยที่ทำให้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 12 เดือนที่ผ่านมาสูงกว่ากรอบเป้าหมาย คือได้รับแรงกดดันจากด้านอุปทานเป็นสำคัญ โดยเฉพาะ

"ราคาพลังงานในประเทศ" ที่ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์โลกที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้อัตราเงินเฟ้อในหมวดพลังงานเฉลี่ย 12 เดือน อยู่ในระดับสูง 20.06%

รวมถึง ราคาอาหารสด ปรับเพิ่มขึ้นจากราคาเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อหมูที่ปรับขึ้นจากผลกระทบโรคระบาดในช่วงต้นปี 65 รวมถึงราคาผักและผลไม้ที่ปรับขึ้นตามผลกระทบจากสภาพอากาศที่แปรปรวน รวมถึงต้นทุนอาหารสัตว์และปุ๋ยที่อยู่ในระดับสูง ทำให้อัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารสดเฉลี่ย 12 เดือน ที่ผ่านมาอยู่ที่ 7.74%

ขณะที่ แรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปสงค์ปรับเพิ่มขึ้นบ้างตามเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว ส่งผลให้การส่งผ่านต้นทุนไปยังราคาสินค้าและบริการอื่นๆ ทำได้มากขึ้นแม้จะยังไม่สามารถส่งผ่านได้เต็มที่ โดยเป็นส่งผ่านไปยังราคาอาหารสำเร็จรูปเป็นหลักทำให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ย 12 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 2.70%

อย่างไรก็ตาม กนง.คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 โดยได้ทยอยลดลงต่อเนื่องตามที่ประเมินไว้ และคาดว่าจะเริ่มกลับมาเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเป้าหมายในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2566

เปิดอันดับเงินเฟ้อไทย ด้านผู้ประกอบการยังเดินหน้าขึ้นราคาสินค้า คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

 จดหมายเปิดผนึก แบงก์ชาติ ส่งถึง คลัง ชี้แจง เงินเฟ้อหลุดกรอบเป้าหมาย

ยูเครนยิงขีปนาวุธ โจมตีฐานทัพเรือ-ท่าเรือในไครเมีย

กระทรวงกลาโหมรัสเซีย แถลงว่า ช่วงเช้าวานนี้ (13 ก.ย.)อู่ต่อเรือเซวาสโทปอล ในเมืองเซวาสโทปอล ริมชายฝั่งทะเลดำ คาบสมุทรไครเมีย ได้เกิดเพลิงไหม้ หลังกองทัพยูเครนยิงขีปนาวุธ จำนวน 10 ลูก และโดรนใต้น้ำ 3 ลำ เข้าโจมตี ส่งผลให้เรือรบที่กำลังซ่อมอยู่ในอู่ต่อเรือได้รับความเสียหาย 2 ลำ และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 24 คน

อย่างไรก็ตามกระทรวงกลาโหมรัสเซียยืนยันว่าเรือรบทั้ง 2 ลำนี้ยังอยู่ในสภาพที่ซ่อมแซมได้ และจะกลับมาปฏิบัติภารกิจได้ตามปกติ

“เราไม่ได้อยู่คนเดียว” นักข่าวนำ “มัมมี่มนุษย์ต่างดาว” เสนอต่อรัฐสภาเม็กซิโก

 ยูเครนยิงขีปนาวุธ โจมตีฐานทัพเรือ-ท่าเรือในไครเมีย

“ปูติน” ต้อนรับ“คิม” เยือนรัสเซีย คาดดีลอาวุธสู้ยูเครน แลกช่วยปล่อยดาวเทียม

"ปูติน"ชี้ ยูเครนเสียทหาร 7 หมื่นนายในการรุกกลับ

นอกจากนี้ระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียยังสามารถทำลายขีปนาวุธได้ 7 ลูก ในขณะที่โดรนใต้น้ำทั้ง 3 ลำ ก็ถูกทำลายโดยกองเรือลาดตระเวนของรัสเซีย

สำหรับเมืองเซวาสโทปอล เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคไครเมีย ที่ถูกรัสเซียผนวกควบรวมไปเป็นส่วนหนึ่งของประเทศตนเองเมื่อปี 2014 ด้วยเหตุนี้ทำให้อู่ต่อเรือเซวาสโทปอลมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ต่อรัสเซีย และยังเป็นท่าเรือหลักของกองเรือรัสเซียในทะเลดำ

โดยภูมิภาคไครเมียเป็น 1 ในเป้าหมายหลักของปฎิบัติการรุกกลับของยูเครนเพื่อยึดคืนดินแดนจากรัสเซีย

ส่วนการพบกันระหว่างประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และ คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่ภูมิภาคตะวันออกไกล เมื่อวานนี้ โดย ผู้นำทั้งสอง ได้พบกันที่ วัสโตชนี คอสโมโดรม ศูนย์อวกาศในเมืองวัสโตชนี ภูมิภาคอมูร์ในพื้นที่ตะวันออกไกลของรัสเซีย

มีรายงานว่าผู้นำทั้ง 2 หารือกันเรื่องทางการทหาร โดยผู้นำเกาหลีเหนือประกาศสนับสนุนรัสเซียอย่างไม่มีเงื่อนไข พร้อมแสดงความเชื่อมั่นกองทัพและประชาชนรัสเซียจะต้องมีชัยเหนือจักรวรรดินิยมของฝ่ายตะวันตกในสงครามยูเครน

นอกจากนี้หลายฝ่ายยังมองว่ารัสเซียจะช่วยเกาหลีเหนือปิดช่องว่างด้านอวกาศ หลังจากพยายามมานานหลายปี การตีความดังกล่าวสอดคล้องกับคำพูดของประธานาธิบดีปูติน ที่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวหลังจากถูกถามว่า จะช่วยคิม จองอึนสร้างดาวเทียมหรือไม่

ผู้นำรัสเซียตอบผู้สื่อข่าวว่า ผู้นำเกาหลีเหนือสนใจวิศวกรรมการสร้างจรวดและพัฒนากิจการด้านอวกาศ และการช่วยให้เกาหลีเหนือสร้างดาวเทียมได้ เป็นเหตุผลที่ตนเองพาผู้นำเกาหลีเหนือมาเยือนศูนย์วัสโตชนี คอสโมโดรมแห่งนี้ นอกจากนี้ ผู้นำรัสเซียยังกล่าวว่า รัสเซียจะแสดงเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้ผู้นำเกาหลีเหนือได้รับชมด้วย

ในเวลาเดียวกัน เมื่อวานนี้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯได้แจ้งต่อรัฐสภาว่าได้อนุมัติแผนการขายเครื่องบินรบ F-35 จากบริษัทล็อกฮีด มาร์ติน ให้แก่เกาหลีใต้ เพื่อรับมือกับความความตึงเครียดในภูมิภาคทั้งภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือและจีน

โดยเครื่องบินรบ F-35 ที่จะขายให้เกาหลีใต้รอบนี้จะมีจำนวนทั้งสิ้น 25 ลำ ซึ่งจะรวมถึงเครื่องยนต์และ อุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องกัน โดยมีมูลค่ารวมกันประมาณ 5,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 180,000 ล้านบาท

นอกจากจะเป็นการเสริมศักยภาพการป้องกันประเทศให้เกาหลีใต้แล้ว กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯยังระบุว่าการขายเครื่องบินรบ F-35 ยังเป็นการสร้างความมั่นใจด้านการทำงานประสานกับกองกำลังสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตามการขายเครื่องบิน F35 จะอนุมัติให้เฉพาะชาติพันธมิตรใกล้ชิดเท่านั้น โดยก่อนหน้านั้นในปี 2018 สหรัฐฯ ได้ถอดตุรกีออกจากรายชื่อประเทศในโครงการ F-35 เนื่องจากรัฐบาลตุรกีสั่งซื้อระบบยิงขีปนาวุธจากรัสเซีย

ย้อนดู “เงินเดือนข้าราชการ” หลัง ครม.สั่งการแบ่งจ่าย 2 รอบ/เดือน

รพ.จุฬาเปิดจุดฉีดวัคซีน HPV เดือน ก.ย.ฟรี! ย้ำรีบลงทะเบียนก่อนหมดเขต!

ไขรหัสคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง!“ทิชชู 1 บาท” เช็ดหน้าได้ไหม? วิธีเลือกให้ปลอดภัยจากสารฟอกขาว

ระเบิดเขื่อนยูเครน ยอดเสียชีวิตเพิ่ม 45 ราย ท้องถิ่นสั่งปิดชายหาด

เจ้าหน้าที่ยูเครนรายงานว่าผู้เสียชีวิตจากเหตุเขื่อนโนวา คาคอฟคา แตกจากการถูกวางระเบิดเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะนี้พบผู้เสียชีวิต 16 คนในพื้นที่ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครน ส่วนพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย เจ้าหน้าที่ที่ถูกแต่งตั้งโดยรัฐบาลรัสเซียรายงานว่าพบผู้เสียชีวิต 29 คน

ความคืบหน้าในการตรวจสอบเหตุการณ์นี้ ทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ช่วยเจ้าหน้าที่อัยการยูเครนสืบสวน ระบุว่า

เมือวันศุกร์ว่าผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าสาเหตุที่เขื่อนแตกน่าจะเป็นเพราะการวางระเบิดของฝ่ายรัสเซีย

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมจากเหตุการณ์ครั้งนี้ แม้ระดับน้ำเริ่มลดแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยูเครนพบว่าเศษซากสิ่งของต่างๆ และ ซากสัตว์ ได้ไหลตามกระแสน้ำในแม่น้ำดนีโปรลอยเข้ามาเกยตื้นตามแนวริมชายหาดเป็นจำนวนมาก

เทศบาลเมืองโอเดสา ได้ประกาศให้ทะเลในพื้นที่ไม่เหมาะกับการลงน้ำ เนื่องจากคุณภาพน้ำที่เลวร้ายลงเป็นอย่างมากและอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน

ส่วนความคืบหน้าสถานการณ์สู้รบ เมื่อวานนี้ กระทรวงกลาโหมอังกฤษได้เผยแพร่รายงานข่าวกรองฉบับล่าสุดที่ระบุว่า ทั้งรัสเซียและยูเครนยังคงเดินหน้าต่อสู้อย่างหนักต่อไป ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างประสบภาวะความสูญเสียอย่างหนัก

โดยกระทรวงกลาโหมอังกฤษ ระบุว่าทหารยูเครนพยายามขับไล่กองกำลังรัสเซียออกจากพื้นที่ของประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยฝ่ายรัสเซียนั้นน่าจะประสบปัญหาในการรบหนักหน่วงที่สุดนับตั้งแต่การถูกโจมตีกลับในสมรภูมิบัคมุตเมื่อเดือนมีนาคม

“เขื่อนแตก” ในภูมิภาคเคอร์ซอน ยูเครนอ้างเป็นฝีมือรัสเซียวางระเบิด คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

แคว้นเคอร์ซอนจมบาดาล คนและสัตว์เดือดร้อนหนัก

รายงานของกระทรวงกลาโหมอังกฤษ ระบุด้วยว่า พื้นที่ที่การรบอยู่ในขั้นดุเดือดที่สุดในเวลานี้อยู่ที่ภูมิภาคซาโปริสเซียทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน รวมทั้งรอบ ๆ เมืองบัคมุตและทางฝั่งตะวันตกของภูมิภาคโดเนตสก์ด้วย อย่างไรก็ตาม กองกำลังยูเครนรุกคืบไปข้างหน้าได้เพียงเล็กน้อย แต่ฝ่ายรัสเซียเน้นไปที่ปฏิบัติการตั้งรับที่มีประสิทธิภาพ อยู่ในพื้นที่ตอนใต้ของยูเครน ขณะเดียวกัน กองทัพยูเครนเปิดเผยรายงานสถานการณ์สู้รบในช่วงเช้าเมื่อวานนี้ว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้านั้น รัสเซียดำเนินการโจมตีทางอากาศใส่ยูเครนทั้งหมด 43 ครั้ง และยิงขีปนาวุธ 4 ลูก รวมทั้งยิงจรวดหลายลำกล้องเข้าใส่ถึง 51 ครั้งด้วย ขณะที่นาย เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต เตือนว่า ความพยายามดำเนินการเจรจาสันติระหว่างยูเครนและรัสเซียนั้นจะต้องเป็นธรรม” เพื่อให้กระบวนการนี้เดินหน้าอย่างยั่งยืน พร้อมระบุว่า “สันติภาพไม่อาจเกิดขึ้นได้ด้วยการยอมรับข้อตกลงที่จัดทำโดยรัสเซีย โดยความเห็นของนาย สโตเทนเบิร์กเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับที่ ผู้นำและตัวแทนจาก 7 ประเทศในแอฟริการ่วมคณะผู้แทนการเจรจาสันติภาพและเดินทางเยือนทั้งยูเครนและรัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อผลักดันให้มีการเจรจายุติสงครามที่เดินหน้ามากว่า 15 เดือนนี้ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะทั้งประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินต่างปฏิเสธข้อเสนอแผนดังกล่าว

 ระเบิดเขื่อนยูเครน ยอดเสียชีวิตเพิ่ม 45 ราย ท้องถิ่นสั่งปิดชายหาด

สื่อรัสเซียยืนยัน มีการเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการกองทัพเรือจริง

สำนักข่าว RIA Novostiของรัฐบาลรัสเซียเปิดเผยว่า พลเรือเอก อเล็กซานเดอร์ มอยเซเยฟอดีตผู้บัญชาการกองเรือภาคเหนือได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการกองทัพเรือคนใหม่และเริ่มต้นทำงานอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค. หลังจากทำหน้าที่รักษาการในตำแหน่งนี้มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว

พลเรือเอกมอยเซเยฟเข้ามาดำรงตำแหน่งแทนที่ พลเรือเอก นิโคไล เยฟเมนอฟ ผู้บัญชาการคนก่อนที่มีข่าวว่ถูกปลดออกไป ซึ่งสาเหตุคาดว่าเป็นเพราะการสูญเสียเรือรบเป็นจำนวนมากจากการโจมตีของฝ่ายยูเครน

สำหรับ พลเรือเอก มอยเซเยฟ ซึ่งกำลังจะมีอายุครบ 62 ปี ในวันที่ 16 เม.ย.นี้ จบการศึกษาจากวิทยาลัยภาพยนต์ในเมืองคาลินินกราด และศึกษาต่อในสถาบันเทคนิคนาวีของรัสเซีย โดยได้เริ่มรับราชการในหน่วยช่างทหารเรือ ก่อนจะย้ายไปทำงานในด้านการสู้รบ

นอกจากนี้การแต่งตั้งพลเรือเอกมอยเซเยฟเป็นผู้บัญชาการกองทัพเรือคนใหม่ยังเป็นการปรับเปลี่ยนตำแหน่งผู้นำระดับสูงของกองทัพรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่การปลดพลเอก เซอร์เกย์ ซูโรวิกิน (Sergey Surovikin) จากตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพอากาศเมื่อเดือน ส.ค.ปีที่แล้วคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

 สื่อรัสเซียยืนยัน มีการเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการกองทัพเรือจริง

ขณะที่เมื่อวานนี้ นาย เซอร์เก นาริชกิน (Sergey Naryshkin) หัวหน้าฝ่ายข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซียอ้างว่ารัฐบาลฝรั่งเศสกำลังหาทางส่งทหารกลุ่มแรกจำนวนประมาณ 2,000 นายเข้าสู่สมรภูมิยูเครน หลังจากประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง ระบุว่ายังมีความเป็นไปได้ที่ชาติตะวันตกจะส่งกำลังพลของตัวเองเข้าร่วมรบ

โดย นาริชกิน ระบุว่ารัฐบาลของประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง ไม่ต้องการให้แผนการดังกล่าวถูกเปิดเผยในเวลานี้ ขณะที่กองทัพฝรั่งเศสกังวลว่าหากส่งทหารเข้าไปปฏิบัติการในยูเครนจริง ก็จะเป็นเรื่องยากที่จะรอดพ้นจากสายตาของรัสเซีย

เริ่มแล้ว! พายุฤดูร้อนถล่มหนัก! ฝนตก-ลูกเห็บตก บ้านเรือนเสียหายเพียบ

“วี วิโอเลต” ไม่ทน! ร้อง ปอท.สืบหามือดีตัดต่อภาพลามกอนาจาร

“เช็งเม้ง” ไหว้ที่บ้านได้หรือไม่ เช็กเลยต้องทำอย่างไรถ้าโอกาสไม่เป็นใจ

สหรัฐฯ ทำ F-35 หาย หลังนักบินดีดตัวออกไม่ทราบสาเหตุ วอนประชาชนช่วยหา

เมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) เกิดเรื่องวุ่น ๆ ในกองทัพสหรัฐฯ เมื่อเครื่องบินขับไล่ F-35B Lightning II (ไลต์นิงทู) เกิดสูญหายไป หลังนักบินดีดตัวออกมาโดยไม่ทราบสาเหตุ และปล่อยให้เครื่องบินต่อไปไหนก็ไม่รู้

เรื่องนี้เกิดขึ้นขณะที่นักบินนาวิกโยธินรายหนึ่งกำลังขับเครื่องบินลำดังกล่าวอยู่เหนือเมืองนอร์ธชาร์ลสตัน รัฐเซาธ์แคโรไลนา จากนั้นจู่ ๆ เขาก็ดีดตัวออกมาด้วยเหตุผลบางอย่าง

ไต้หวันเรียกร้องจีนหยุดคุกคาม หลังส่งเครื่องบิน 103 ลำเข้าใกล้เกาะ

รัสเซียมอบไรเฟิล-เสื้อเกราะ-โดรน เป็นของขวัญให้ “คิม จองอึน”

เครื่องบินกองทัพอิตาลีตกใส่รถที่จอดอยู่ เด็กหญิงวัย 5 ขวบเสียชีวิต

เจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ เปิดเผยว่า นักบินคนดังกล่าวต้องดีดตัวออกมาเพราะประสบเหตุบางอย่าง โดยโดดร่มลงสู่พื้นอย่างปลอดภัยในพื้นที่นอร์ธชาร์ลสตันเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลท้องถิ่น ซึ่งเขามีอาการทรงตัวแล้ว

เจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ ยังร้องขอ ให้ประชาชนช่วยค้นหาเครื่องบินขับไล่ F-35 ที่หายไป ซึ่งเชื่อว่าหายไปที่ไหนสักแห่งในรัฐเซาท์แคโรไลนา

จ่าสิบเอกเฮเทอร์ สแตนตัน ประจำฐานทัพร่วมชาร์ลสตัน กล่าวว่า การค้นหาขณะนี้มุ่งเน้นไปที่ทะเลสาบ 2 แห่งทางตอนเหนือของเมืองนอร์ธชาร์ลสตัน คือทะเลสาบโมลทรี (Moultrie) และทะเลสาบมารีออน (Marion)

ด้าน แนนซี เมซ สมาชิกสภาท้องถิ่นกล่าวว่า “F-35 หายไปได้อย่างไร? ไม่มีอุปกรณ์ติดตามได้ไง และเรากำลังขอให้ประชาชนทำอะไร หาเครื่องบินขับไล่แล้วส่งคืนให้กองทัพเหรอ?”

เฮลิคอปเตอร์ของแผนกบังคับใช้กฎหมายเซาท์แคโรไลนาเข้าร่วมการค้นหา F-35 หลังจากสภาพอากาศเลวร้ายในพื้นที่ดังกล่าวกลับมาปลอดโปร่ง สแตนตันกล่าว และเสริมว่า เจ้าหน้าที่กำลังเดินหน้าสอบสวนสาเหตุที่นักบินดีดตัวออกมา

นอกจากเครื่องบินขับไล่ลำที่เกิดเรื่องนี้แล้ว ยังมี F-35 ลำที่สองด้วย โดยลำนี้สามารถเดินทางกลับฐานทัพร่วมชาร์ลสตันได้อย่างปลอดภัยคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

 สหรัฐฯ ทำ F-35 หาย หลังนักบินดีดตัวออกไม่ทราบสาเหตุ วอนประชาชนช่วยหา

เครื่องบินทั้งสองลำเป็นส่วนหนึ่งของฝูงบินฝึกโจมตีนาวิกโยธิน 501 ซึ่งประจำอยู่ที่เมืองโบฟอร์ต ไม่ไกลจากชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของเซาท์แคโรไลนา

เรียบเรียงจาก Associated Press

ภาพจาก Jenna Dobson / US NAVY / AFP