ธนาคารพร้อมจัดการภัยการเงิน สแกนหน้าโอนเงิน ป้องกันมิจฉาชีพ

ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงิน เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2566 เพื่อเป็นแนวปฏิบัติขั้นต่ำให้สถาบันการเงินทุกแห่งปฏิบัติตามเป็นมาตรฐานเดียวกันในการดูแลการทำธุรกรรมทางการเงินตลอดเส้นทาง ทั้งการป้องกัน การตรวจจับ และการตอบสนองและรับมือ ซึ่งจะช่วยการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนทำได้รวดเร็ว และครอบคลุมมากขึ้น

ล่าสุดวันที่ 10 มี.ค. 66 ทางด้าน ธปท. ร่วมด้วยสมาคมธนาคารไทย และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ได้ออกมาแสดงความมั่นใจว่าทุกอย่างทุกมาตรการจะเสร็จสิ้นตามที่ธปท.ได้กำหนด โดยเฉพาะการโอนเงินที่ต้องสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนหากวงเงินเกิน 50,000 บาทต่อครั้ง หรือเกิน 200,000 บาทต่อวัน หรือหากมีการปรับเปลี่ยนวงเงินให้เป็นเกิน 50,000 บาท ซึ่งทั้งธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐ ยืนยันว่าจะทำได้ไม่มีปัญหา และยังมีแนวทางป้องกันภัยการเงินทางไซเบอร์อื่นๆเพิ่มเติม เช่น การจัดตั้งศูนย์กลางแลกเปลี่ยนข้อมูล เป็นต้น

ทางด้าน “สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา” ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท. ได้บอกว่า การยกระดับให้เรื่องนี้เป็นความเสี่ยงสำคัญที่ทุกสถาบันการเงินจะต้องดูแลและบริหารจัดการอย่างจริงจัง โดย ธปท. ได้ออกชุดมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงิน เพื่อช่วยให้ระบบการเงินมีความปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการทางการเงิน และเพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติโดยเร็ว ธปท. จึงได้เรียกผู้บริหารสถาบันการเงินทั้งธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐเข้ามาประชุมหารือและกำชับให้สถาบันการเงินทุกแห่งเร่งดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว และเตรียมความพร้อมรองรับการดำเนินงานตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสถาบันการเงินทุกแห่ง

ด้าน “ผยง ศรีวณิช” ประธานสมาคมธนาคารไทย ยืนยันว่า ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งพร้อมปฏิบัติตามมาตรการของธปทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. พร้อมยกระดับความปลอดภัยของภาคธนาคาร เพื่อรับมือและจัดการภัยทางการเงินออนไลน์ ได้แก่ เรื่องการป้องกัน ภาคธนาคารได้ร่วมมือกันงดการส่งข้อความ SMS ที่แนบลิงก์ในการติดต่อกับลูกค้าในระยะนี้ และเร่งพัฒนาระบบป้องกันการทำธุรกรรมทุจริตอย่างต่อเนื่อง

เรื่องการตรวจจับ ธนาคารสมาชิกอยู่ระหว่างนำเทคโนโลยีมาช่วยตรวจจับธุรกรรมต้องสงสัยให้ได้โดยเร็ว โดยร่วมกันออกแบบและพัฒนาระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลทุจริตในภาคธนาคาร (Central Fraud Registry) เพื่อให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชี ธุรกรรมต้องสงสัย และบัญชีม้า ระหว่างธนาคารเพื่อดำเนินการติดตามป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น จะได้เห็นออกมาภายในปีนี้

เรื่องการตอบสนองและรับมือ จัดให้มีช่องทางติดต่อเร่งด่วน (Hotline) 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน ลูกค้าที่ตกเป็นเหยื่อสามารถแจ้งเหตุได้โดยตรง ปัจจุบันมีธนาคารสมาชิกหลายแห่งเริ่มดำเนินการแล้ว

สำหรับมาตรการอื่นที่ระบบมีความซับซ้อนต้องใช้เวลาพัฒนา สมาคมฯ และธนาคารสมาชิก จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จทันตามกรอบเวลา นอกจากนี้ ยังพร้อมร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเช่น ผู้ให้บริการ e-wallet ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อร่วมขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาทุจริตภัยการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ และครอบคลุมทั้งระบบนิเวศแบบ end to end ที่มิจฉาชีพชอบใช้หลอกลวง

ขณะที่ “ฉัตรชัย ศิริไล” ประธานสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ กล่าวว่า เนื่องจากกลุ่มลูกค้าของสถาบันการเงินของรัฐส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายย่อย ซึ่งมีความเสี่ยงถูกหลอกลวง การดูแลความปลอดภัยในการใช้บริการทางการเงินให้กับลูกค้าจึงเป็นเรื่องสำคัญ สมาคมฯ และสถาบันการเงินสมาชิกพร้อมให้ความร่วมมือกับ ธปท. และสมาคมธนาคารไทยในการจัดการเรื่องดังกล่าว

ที่ผ่านมาสถาบันการเงินสมาชิกหลายแห่ง ได้มีแนวทางการป้องกันภัยทุจริตทางการเงินต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง และให้ความรู้ประชาชน โดยเฉพาะการออกประกาศเตือนการไม่ส่งลิงก์ต่าง ๆ ให้กับลูกค้าและประชาชน และการเปิดศูนย์รับแจ้งเหตุภัยทางการเงิน ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวงแล้ว ยังสามารถนำข้อมูลที่ได้รับจากการร้องเรียนมาวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางและพัฒนาระบบการป้องกันภัยทุจริตทางการเงินที่จะเกิดในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

“ทวนทอง ตรีนุภาพ” ผู้แทน สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ กล่าวว่า ธนาคารรัฐที่มีโมบายแบงก์กิ้ง ทั้งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) , ธนาคารออมสิน และธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) มีความพร้อมเรื่องเทคโนโลยีไบโอเมตริกสแกนใบหน้ายืนยันตัวตน ซึ่งปัจจุบันได้ใช้อยู่แล้ว และเชื่อว่าการนำมาใช้กับการโอนเงินเพิ่มเติมที่หากวงเงินเกิน 50,000 บาทต่อครั้งและอื่นๆนั้น จะไม่มีปัญหา

“ลูกค้าแบงก์รัฐส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเปราะบาง และมีบางคนที่ไม่สะดวกใช้โมบายแบงก์กิ้งหรือไม่มีความพร้อม ความเสี่ยงภัยการเงินตรงนี้ลดลง เพราะยังไม่ได้ใช้ แต่ในอนาคตธนาคารก็ส่งเสริมให้ใช้ แต่ก็ต้องควบคู่ให้ความรู้กับกลุ่มเปราะบางนี้ เพื่อให้เกิดความระมัดระวังกับความเสี่ยงให้ลูกค้ากลุ่มนี้เป็นพิเศษ”

นายกฯสั่งการบ้านท่องเที่ยวไทย 2567 ปั้นรายได้ 3.5 ล้านล้านบาท

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ยินดีที่การท่องเที่ยวในไทยกลับมาคึกคัก ทั้งจากนักท่องเที่ยวในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีการจับจ่ายใช้สอยที่มากขึ้น ซึ่งทั้งนี้เกิดจากการขับเคลื่อนเป้าหมายให้เป็นไปตามคาดการณ์ และขับเคลื่อนไปยังเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นของนายกรัฐมนตรี

โดยนายกรัฐมนตรีขอให้กำหนดเป้าหมายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวปี 2567 ให้ได้ 3.5 ล้านล้านบาท (จากเดิมที่ตั้งไว้ 3 ล้านล้านบาท) แบ่งเป็นรายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศ 1 ล้านล้านบาท และรายได้จากการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.5 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ การจะทำได้ตามเป้าหมายต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าความร่วมมือจากคนไทย จะทำให้สำเร็จตามเป้าได้ไม่ยาก เพื่อนำรายได้เข้าสู่ประเทศคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

สำหรับสถิติการท่องเที่ยว จากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยพบว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ตั้งแต่ 1 มกราคม-31 ธันวาคม 2566 จำนวนกว่า 28.04 ล้านคน สร้างรายได้จากการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 1.2 ล้านล้านบาทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

โดยในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2567 บรรยากาศการท่องเที่ยวไทยทั้งตลาดต่างประเทศและตลาดในประเทศ จะคึกคักขึ้นจากปีที่ผ่านมา เกิดเป็นรายได้ทางการท่องเที่ยวไทยรวมประมาณ 54,400 ล้านบาท หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ที่ผ่านมานายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐบาลได้กำหนดให้นโยบายด้านการท่องเที่ยวเป็นนโยบายเรือธง ให้ความสำคัญ โดยได้พูดคุยหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดเป็นนโยบาย และแนวทางในการส่งเสริมการท่องเที่ยวมาอย่างต่อเนื่อง เช่น มาตรการยกเว้นการตรวจลงตราเข้าไทย (Visa Exemption) การจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวที่เป็นไปตามกระแสความนิยมในช่วงเทศกาล การส่งเสริมการเที่ยวเมืองรอง การจัดงานเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในพื้นที่ 10 จังหวัดทั่วประเทศ สร้างความรับรู้วิถีไทย ส่งเสริม Soft Power เพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยว

รวมทั้ง เสริมสร้างภาพลักษณ์และศักยภาพการเป็นเมืองท่องเที่ยวของประเทศไทย สร้างเงินสะพัดจากการท่องเที่ยวมูลค่ามหาศาล โดยในปี 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตลอดทั้งปี ทะลุ 28 ล้านคน มีรายได้จากการท่องเที่ยวต่างชาติ 1.2 ล้านล้านบาท และมีรายได้รวมจากการท่องเที่ยวในช่วงปีใหม่ถึง 54,400 ล้านบาท

ยกกำลัง “ต่างระดับลำลูกกา” เพิ่มความคล่องตัวทุกทิศทาง

รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า ได้ดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพทางแยกต่างระดับลำลูกกา บริเวณจุดตัดทางหลวงพิเศษหมายเลข9 (ด้านตะวันออก) กับทางหลวงหมายเลข3312พื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี งบประมาณ613,302,282บาท ปัจจุบันมีความคืบหน้า69.778%จากแผนงาน72.153%ช้ากว่าแผน2.375%อยู่ระหว่างการก่อสร้าง

โครงการดังกล่าวเริ่มต้นสัญญาวันที่ 4 ก.ย.63 สิ้นสุดสัญญา 29 มี.คคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. 66 ระยะเวลา 937 วัน โดยมี บริษัท นภาก่อสร้าง จำกัด เป็นผู้รับจ้าง ปัจจุบันอยู่ระหว่างปรับแผนงานการทำงานใหม่ ตามที่ได้รับมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 โดยกำหนดให้ค่าปรับเป็น 0 ซึ่งจะได้ขยายระยะเวลาสัญญาไปสิ้นสุดในปี 67 อย่างไรก็ตาม ทลคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. จะเร่งรัดดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในปี 66

รูปแบบการก่อสร้างจะดำเนินการสะพานกลับรถRamp Aความยาว464เมตร เพื่อรองรับปริมาณจราจรทิศทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าเข้าสู่ลำลูกกา และ ก่อสร้างสะพานยกระดับRamp Bความยาว344เมตร เพื่อรองรับปริมาณการจราจรทิศทางจากลำลูกกาและดอนเมือง สู่ ทล.3901มุ่งหน้าทิศทางวัดมูลจินดาราม อ.ธัญญบุรี, รังสิต จ.ปทุมธานี และ จ.นครนายก รวมทั้งงานขยายช่องจราจร และงานวางระบบระบายน้ำ บน ทล.3901และ ทล.3312งานปรับปรุงแยกร่มไทรบริเวณ ทล.3312และงานปรับปรุงแยกคลองห้า

โครงการดังกล่าวเกิดขึ้น เนื่องจากเดิมทีรถที่ออกจากกรุงเทพฯ ทิศทางมุ่งหน้าบางปะอิน ถ้าต้องการจะไปลำลูกกาจะต้องไปติดสัญญาไฟจราจรบริเวณแยกคลองห้า และเลี้ยวขวา เพื่อมุ่งหน้าไปลำลูกกาก่อน ดังนั้น เมื่อโครงการแล้วเสร็จรถสามารถใช้สะพานกลับรถ Ramp A มุ่งหน้าเข้าสู่ลำลูกกา โดยไม่ติดสัญญาณไฟจราจรจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทางบริเวณดังกล่าวพื้นที่ จ.ปทุมธานี และพื้นที่ใกล้เคียงให้สะดวก ปลอดภัย และคล่องตัวมากขึ้น ลดปัญหาการจรจราจรติดขัด

ธนารักษ์ พร้อมเดินหน้าเซ็น วงษ์สยาม หากผลสอบออกมาไม่พบความผิด

นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวถึงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงการบริหารจัดการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นรายละเอียดในผลสอบ เนื่องจากขณะนี้ทางคณะกรรมการตรวจสอบ ได้รายงานผลสอบข้อเท็จจริงไปยัง รมว.คลัง โดยตรงตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. 65 ที่ผ่านมา ดังนั้นจึงยังต้องรอคำสั่งจาก รมว.คลัง อีกครั้ง ว่าจะให้ดำเนินการอย่างไรต่อ หากผลสอบปรากฏเป็นไปตามโดยถูกต้อง ไม่มีข้อพิรุธ หรือข้อสงสัยว่าอาจเป็นไปโดยมิชอบ ธนารักษ์ก็จะเริ่มดำเนินการลงนามสัญญากับบริษัทวงษ์สยามต่อ เพราะหากยังชะลอ กรมฯ ก็จะมีความผิด กลายเป็นละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่หากผลสอบปรากฏออกมาว่า ยังมีข้อสงสัย หรือข้อพิรุธ ก็ต้องไปดูต่อว่าสงสัยในส่วนใดคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ส่วนกรณีประเด็นกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้ทำหนังสือถึงกรมธนารักษ์ เพื่อขอข้อมูลประกอบการสืบสวน กรณี บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก หรือ อีสท์วอเตอร์ อาจมีการเสียภาษีไม่ถูกต้องตามกฎหมายนั้น จะเป็นหน้าที่ของกรมสรรพากรโดยตรง โดยกรมธนารักษ์ได้ให้ข้อมูลไปแล้วคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการประมูล ดังนั้นจึงไม่ใช่เหตุผลที่จะมายกเลิกการประมูลได้ ขณะเดียวกันหากยังมีข้อพิรุธสงสัย ก็ต้องไปดูว่าสงสัยในประเด็นใด ถ้าเป็นประเด็นการประมูลโดยมิชอบ ปปช.จะต้องมีการชี้มูล จึงจะยกเลิกการประมูลได้ ไม่สามารถใช้เพียงข้อสงสัย นำมาสั่งให้ยกเลิกผลการประมูลได้ รวมถึงกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องชะลอการลงนามสัญญากับวงษ์สยาม เพราะเป็นเรื่องของการตรวจสอบทางการเมือง 

ก.ล.ต. สั่ง บิทคับ แก้ไขการคัดเลือกและอนุมัติเหรียญ KUB ตามเกณฑ์

รายงานข่าวจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ในการประชุมครั้งที่ 7/2565 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 อาศัยอำนาจตามมาตรา 35 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 (พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ) สั่งการให้ Bitkub แก้ไขการคัดเลือกและอนุมัติเหรียญ KUB ในการเข้ามาซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (ศูนย์ซื้อขายฯ) ของ Bitkub ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 โดยให้ Bitkub ประสานกับบริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด (BBT) ซึ่งเป็นผู้ออกเหรียญ KUB โดยให้ BBT แก้ไขมาตรฐานเทคโนโลยีของโปรเจคของเหรียญ KUB ให้เป็นไปตามคะแนนที่ Bitkub ได้พิจารณาไว้เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 และให้ Bitkub แสดงหลักฐานอย่างชัดเจนต่อ ก.ล.ตคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ว่า มาตรฐานเทคโนโลยีของโปรเจคของเหรียญ KUB เป็นไปตามคะแนนที่ Bitkub ได้พิจารณาไว้

สืบเนื่องจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 Bitkub ได้พิจารณาอนุมัติเหรียญ KUB เข้ามาให้บริการซื้อขายในศูนย์ซื้อขายฯ ของ Bitkub โดยที่เหรียญ KUB มีคุณสมบัติไม่ถึงเกณฑ์ที่จะได้รับอนุมัติเข้ามาซื้อขายตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกสินทรัพย์ดิจิทัล (Listing Rule) ของ Bitkub ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. โดย ก.ล.ต. ได้ตรวจสอบการคัดเลือกเหรียญ KUB แล้ว พบว่า Bitkub มีการให้คะแนนการคัดเลือกเหรียญ KUB เพื่ออนุมัติให้เข้ามาซื้อขายในศูนย์ซื้อขายฯ ของ Bitkub ไม่เป็นไปตาม Listing Rule ของ Bitkub ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ตคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. โดย Bitkub ให้คะแนนในเรื่องมาตรฐานเทคโนโลยีของโปรเจคในระดับที่ “สูงกว่ามาตรฐานและไม่เคยมีมาก่อน” แต่ไม่ปรากฏหลักฐานและเอกสารที่แสดงให้เห็นว่า เหรียญ KUB มีเทคโนโลยีดังกล่าวอยู่จริง นอกจากนี้ Bitkub ยังให้คะแนนในหัวข้อการระดมทุนและหัวข้อส่วนลด Pre-ICO Sale ที่ไม่สอดคล้องกับลักษณะของเหรียญ KUB ด้วย จึงทำให้ ก.ล.ต. เห็นว่า คะแนนการคัดเลือกเหรียญ KUB โดยรวมไม่ถึงเกณฑ์ที่จะอนุมัติเข้ามาซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้

หุ้นแบงก์ฉุดดัชนีปิดลบ 6.44 จุด

บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 5 ก.ค. 66 เคลื่อนไหวในแดนลบ ส่วนใหญ่เป็นการปรับลดลงจากหุ้นกลุ่มธนาคาร อาทิ ธ.กรุงไทย ธ.ไทยพาณิชย์ และ ธ.กรุงไทย หลังจากปรับขึ้นมาในช่วงก่อนหน้านี้ แม้จะมีประเด็นการเมืองที่ชัดเจนขึ้นจากประธานสภา นัดโหวตเลือกนายกฯ วันที่ 13 ก.ค. นี้ ส่งผลให้ ณ เวลา 17.02 น. ดัชนีปิดที่ 1,508.87 จุด ลดลง 6.44 จุด หรือ 0.42% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 38,565.40 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 460.77 จุด ลดลง 7.82 จุด หรือ 1.67% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,839.58 ล้านบาท

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล. ทิสโก้ กล่าวว่า ภาพรวมไตรมาส 3 เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เพราะปัจจุบันดัชนีหุ้นไทยที่หลุดระดับ 1,500 จุด กำลังสะท้อนภาพการเมืองในประเทศที่ส่อแวววุ่นวาย คือ การจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าและมีชุมนุมประท้วง โดยมองว่า ดัชนีหุ้นไทยในไตรมาส 3 มีโอกาสลดลงทดสอบบริเวณ 1,450 จุด และในกรณีเลวร้ายที่เศรษฐกิจสหรัฐ ถดถอยมา ดัชนีมีโอกาสลงมาบริเวณ 1,400 จุด แต่น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี ก่อนมีแนวโน้มกระเตื้องขึ้นในช่วงปลายปีนี้ 

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด5อันดับได้แก่

1.ธ.กสิกรไทยปิดที่134.50บาทเพิ่มขึ้น1.00บาท

2.ธ.กรุงเทพปิดที่159.00บาทลดลง-1.50บาทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

3.แอดวานซ์ปิดที่216.00บาทเพิ่มขึ้น2.00บาทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

4.บีดีเอ็มเอสปิดที่27.75บาทเพิ่มขึ้น0.25บาท

5.เอสซีบีปิดที่109.00บาทลดลง-0.50บาท

หยุดยาววันแรก! ประชาชนใช้บริการรถไฟ-รถไฟฟ้าคึกคัก 6.72 แสนคน

เมื่อวันที่ 14 ก.ค. กรมการขนส่งทางราง (ขร.) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ค.65 ซึ่งเป็นวันแรกของวันหยุดต่อเนื่อง ช่วงวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 13-17 ก.ค.65 มีประชาชนมาใช้บริการระบบราง รวม 672,388 คน เพิ่มขึ้นจากวันแรกของเทศกาลสงกรานต์ 65 (13 เม.ย.65) ซึ่งมีผู้ใช้บริการระบบรางรวม 656,325 คน แบ่งเป็น รถไฟ 64,313 คน เพิ่มขึ้นจากวันแรกของเทศกาลสงกรานต์ 65 (13 เม.ย.65) 42,808 คน คิดเป็น 50.24% และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) 608,075 คน ลดลงจากวันแรกของเทศกาลสงกรานต์ 65 (13 เม.ย.65) 613,517 คน คิดเป็น 0.89%

สำหรับในส่วนของรถไฟนั้น ให้บริการรวม 218 เที่ยว มีผู้ใช้บริการ 64,313 คน แบ่งเป็น ขาเข้า 18,702 คน และขาออก 33,611คน โดยเป็นผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 25,795 คน และเชิงสังคม 38,518 คน นอกจากนี้ยังพบว่า สายใต้ มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 23,948 คน (ผู้โดยสารขาออก 12,220 คน และขาเข้า 11,728 คน) รองลงมาคือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ มีผู้ใช้บริการ 15,893 คน (ขาออก 8,410 คน และขาเข้า 7,483 คน) สายเหนือ 14,079 คน (ขาออก 7,225 คน และขาเข้า 6,854 คน) สายตะวันออก 7,196 คน (ขาออก 4,101 คน และขาเข้า 3,095 คน) และสายแม่กลอง 3,197 คน (ขาออก 1,655 คน และขาเข้า 1,542 คน)

ขณะที่ระบบรถไฟฟ้า ให้บริการรวม 1,863 เที่ยววิ่ง มีผู้ใช้บริการรวม 608,075 คน ประกอบด้วย รถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 164 เที่ยว ผู้โดยสาร 34,058 คน รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ให้บริการ 230 เที่ยว ผู้โดยสาร 10,123 คน รถไฟฟ้า MRT สายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) ให้บริการ 216 เที่ยว ผู้โดยสาร 18,743 คน รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) ให้บริการ 306 เที่ยว ผู้โดยสาร 159,086 คน และรถไฟฟ้าบีทีเอส (สีเขียวและสีทอง) ให้บริการรวม 937 เที่ยว ผู้โดยสาร 386,065 คน ทั้งนี้ รฟท.ได้เพิ่มตู้โดยสารพ่วงไปกับขบวนรถปกติ ในเส้นทางที่มีประชาชนเดินทางมาก ส่วนระบบรถไฟฟ้าในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนเช้า และเย็นได้เพิ่มความถี่ในการให้บริการด้วย

ส่วนด้านความปลอดภัย ไม่มีอุบัติเหตุรถไฟ แต่มีรถไฟฟ้าขัดข้อง 2 ครั้ง ดังนี้ 1.แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เวลา 09.00 น. เกิดเหตุกระแสไฟฟ้าขัดข้องที่สถานีสุวรรณภูมิ ได้ปิดกั้นผู้โดยสารขาเข้าชั่วคราว เนื่องจากแสงสว่างไม่เพียงพอ ยังคงมีรถไฟให้บริการตามตารางเวลา ต่อมาเวลา 10.09 น. ที่สถานีสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่ทำการจ่ายไฟฟ้าคืนให้กับสถานีสุวรรณภูมิ สามารถเปิดให้บริการผู้โดยสารขาเข้าได้ตามปกติ และ 2.สายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) เวลา 09.10 น. ขบวนรถไฟฟ้าหมายเลข 33 เกิดเหตุระบบขับเคลื่อนรถไฟฟ้าอัตโนมัติขัดข้อง 1 ขบวน ที่สถานีไฟฉายฝั่งขาล่อง (ปลายทางสถานีหลักสอง) ดำเนินการถอนรถออกจากการให้บริการ โดยมีขบวนรถให้บริการทดแทน ล่าช้า 3 นาที

อย่างไรก็ตามช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่องนี้ กระทรวงคมนาคมได้ขอความร่วมมือจากกระทรวงมหาดไทย แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีทางรถไฟผ่าน จัดเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรืออาสาสมัครมาประจำจุดตัดทางรถไฟเสมอระดับที่เป็นทางลักผ่าน รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ขับขี่หยุดรถดูความปลอดภัยก่อนข้ามจุดตัดทางรถไฟ และไม่ฝ่าฝืนเครื่องกั้นถนน เพื่อลดอุบัติเหตุขบวนรถไฟชนยานพาหนะบริเวณจุดตัดทางรถไฟเสมอระดับ ขณะเดียวกัน ขร. ได้ประสาน รฟทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ให้เฝ้าระวังน้ำท่วมทางรถไฟ เนื่องจากมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ด้วย.คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ฮิตวิ่ง! มอเตอร์เวย์ ‘ปากช่อง-ขามทะเลสอ’ วันแรก 7.5 พันคัน

รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้(29 ก.ค.65)สำนักอำนวยความปลอดภัย และศูนย์บริหารจัดการจราจรและอุบัติเหตุ (HTOC)ได้รายงานสภาพจราจรประชาชนเดินทางช่วงวันหยุดยาววันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างวันที่28-31ก.ค.65บนถนนสายหลัก และ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์)จำนวน 12 เส้นทางหลัก พบว่า ในภาพรวมปริมาณการจราจรส่วนใหญ่คล่องตัวดังนี้

1.ดอนเมือง (ทล.1 หรือถนนพหลโยธิน)-นครสวรรค์ (ทล.32 หรือถนนสายเอเซีย) สภาพจราจรคล่องตัว

2.บางบัวทอง-ชัยนาท (ทล.340) สภาพจราจรคล่องตัว

3.ต่างระดับบางปะอิน (ทล.1)-สระบุรี (ทล.2 หรือถนนมิตรภาพ)-นครราชสีมา (ทล.204) สภาพจราจรคล่องตัว

4.สระบุรี (ทล.21)-ม่วงค่อม (ทล.205)-หล่มสัก (ทล.21) สภาพจราจรคล่องตัว

5.รามอินทรา-ฉะเชิงเทรา-ปราจีนบุรี-ปักธงชัย (ทล.304) สภาพจราจรคล่องตัวชะลอตัวช่วงนาดี

6.รังสิต (ทล.305)-กบินทร์บุรี (ทล.33) สภาพจราจรคล่องตัว

7.ต่างระดับบางขุนเทียน-สมุทรสาคร-สมุทรสงคราม (ทล.35 หรือถนนพระราม2)-เพชรบุรี (ทล.4 หรือถนนเพชรเกษม) สภาพจราจรคล่องตัว เคลื่อนตัวได้ช้าช่วงบางขุนเทียน เคลื่อนตัวได้ช้าช่วงเมืองสมุทรสาคร

8.ตลิ่งชัน (ทล.338)-นครปฐม-ราชบุรี-เพชรบุรี (ทล.4) สภาพจราจรคล่องตัว หนาแน่นช่วงนครปฐม

9.ทับช้าง-พัทยา (มอเตอร์เวย์หมายเลข 7) สภาพจราจรคล่องตัว

10.บางนา-บางปะกง (ทล.34) สภาพจราจรคล่องตัว

11.วงแหวนกาญจนาภิเษก (ทล.9) ฝั่งตะวันออก (มอเตอร์เวย์หมายเลข 9) สภาพจราจรคล่องตัว

12.วงแหวนกาญจนาภิเษก (ทล.9) ฝั่งตะวันตกสภาพจราจรคล่องตัวหนาแน่นช่วงเชียงรากน้อยคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

และ เส้นทางพิเศษ มอเตอร์เวย์ ช่วงปากช่อง-สีคิ้ว-ขามทะเลสอ สภาพจราจรคล่องตัว

สำหรับผลสรุปปริมาณจราจร ขาเข้าและขาออกกรุงเทพฯ บนทางสายหลักและมอเตอร์เวย์ เมื่อวันที่28 ก.ค.65 พบว่ามีจำนวนทั้งหมด 1,006,386 คัน แบ่งเป็น ขาเข้า 484,114 คัน และ ขาออก 522,272 คันคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ส่วนปริมาณรถที่ใช้M6สายบางปะอิน-นครราชสีมา ช่วง ปากช่อง-สีคิ้ว-ขามทะเลสอ ระยะทาง64กม. ซึ่งเป็นทางยกระดับบน ถนนมิตรภาพ ช่วงผ่านเขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา ในฝั่งขาเข้า (ฝั่งกังหันตรงข้ามเขื่อนลำตะคอง2ช่องทางจาก4ช่องทาง โดยให้บริการเดินทางทางเดียว (วันเวย์) ขาออกจากกรุงเทพฯ เมื่อวันที่28 ก.ค.65 เป็นวันแรกพบว่ามีรถใช้ทั้งหมด 7,546 คัน แบ่งเป็น ลงช่วงต่างระดับสีคิ้ว 2,891 คัน และ ลงช่วงขามทะเลสอ 4,655 คัน

ทั้งนี้ช่วงปากช่อง-สีคิ้ว สามารถแบ่งเบาการจราจรทางหลวงหมายเลข2 (ถนนมิตรภาพ) ได้14%โดยบริเวณ กม.75ช่วงลำตะคอง มีปริมาณจราจร47,169 คัน ซึ่งเมื่อรวมกับM6แล้ว มีปริมาณจราจรขาออก รวม54,715 คัน

ขณะที่ ช่วงสีคิ้ว-ขามทะเลสอ สามารถแบ่งเบาการจราจรถนนมิตรภาพได้14%โดยบริเวณ กม.123ช่วงสูงเนิน มีปริมาณจราจร29,259 คัน ซึ่งเมื่อรวมกับM6แล้ว มีปริมาณจราจรขาออก รวม33,914 คัน

ขณะที่สถิติอุบัติเหตุบนทางหลวงแผ่นดินช่วงวันหยุดยาวดังกล่าว เมื่อวันที่ 28 ก.ค.65 พบว่า มีการเกิดอุบัติเหตุจำนวน 45 ครั้ง เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บ 34 ราย สาเหตุส่วนใหญ่มาจากขับรถเร็วถึง 31 ครั้ง ส่วนยานพาหนะที่เกิดเหตุมากที่สุดคือรถยนต์นั่ง 36 คัน

อั้นไม่ไหว “ยาคูลท์” ขอปรับขึ้นราคา 1 บาท ดีเดย์ 1 มี.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 16 ก.พ. ยาคูลท์ได้ประกาศปรับขึ้นราคาจำหน่ายยาคูลท์ขวดละ 1 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.นี้เป็นต้นไป หลังจากไม่ได้ปรับราคานานถึง 11 ปี หรือปรับขึ้นครั้งสุดสุดท้ายเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2555 ซึ่งขณะนั้นได้ปรับขึ้นทีเดียวขวดละ 2 บาท เนื่องจากต้นทุนการผลิตนมเปรี้ยวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอด 11 ปีที่ผ่านมา ทุกอย่างขึ้นราคาหลายเท่าตัว แต่ยาคูลท์ยังแบกรับภาระต้นทุนเพื่อไม่ให้ผู้บริหารเดือดร้อน อย่างไรก็ตาม การปรับราคาขึ้นขวดละ 1 บาท ทั้งรสดั้งเดิมและรถหวานน้อย

ทางด้าน สาวยาคูลท์ กล่าวว่า ยาคูลท์ปรับราคาจากขวดละ 5 บาท เป็น 7 บาท เมื่อ 11 ปีก่อน เรียกว่ายืนราคานี้มานาน อย่างไรก็ตาม ในครั้งนี้ทางหัวหน้างานได้บอกให้ทางกลุ่มสาวยาคูลท์ไปแจ้งข่าวกับกลุ่มลูกค้าว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.นี้ จะปรับราคารสชาติดั้งเดิมจากขวดละ 7 บาท เป็น 8 บาท และรสชาติหวานน้อยจากขวดละ 8 บาท เป็น 9 บาท ที่ผ่านมามีลูกค้าขาประจำบ่น แต่ยังคงเป็นลูกค้าขาประจำต่อไป ที่ยกเลิกมีเพียง 2 รายเท่านั้น ไม่ได้กระทบรายได้คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

รายงานข่าวจาก ยาคูลท์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 11 ปีที่ผ่านมา ต้นทุนในการผลิตนมเปรี้ยวยาคูลท์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ “ยาคูลท์” มีความจำเป็นต้อง “ขอปรับราคาจำหน่ายสินค้า เพิ่มขึ้น 1 บาทต่อขวด” โดยจะขอปรับขึ้นราคาสินค้าตั้งแต่ วันที่ 1 มีนาคม 2566คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

“สาวยาคูลท์” ขอบพระคุณลูกค้าที่เข้าใจ สถานการณ์ที่เกิดขึ้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะมีโอกาสได้ส่งต่อจุลินทรีย์ที่มีชีวิต เพื่อดูแลสุขภาพของคุณลูกค้าตลอดไปค่ะ

“ทางหลวง” เปิดยอดรถเข้า-ออกกรุงเทพ หยุดวันฉัตรมงคล 3.9 ล้านคัน

รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า สำนักอำนวยความปลอดภัย และศูนย์บริหารจัดการจราจรและอุบัติเหตุ (HTOC) ได้สรุปปริมาณจราจรประชาชนเดินทางช่วงวันหยุดต่อเนื่องวันฉัตรมงคล ระหว่างวันที่ 4-7 พ.ค. 66 รวมสะสม 4 วัน บนถนนสายหลัก และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) จำนวน 10 เส้นทางหลัก พบว่า มีรถเข้า-ออกกรุงเทพฯ จำนวนทั้งหมด 3,967,932 คัน แบ่งเป็น ขาเข้า 1,977,409 คัน ขาออก 1,990,523 คัน ประกอบด้วยคำพูดจาก ฟรี เกมสล็อตทดลองเล่น

ปริมาณรถเข้า-ออก ทางหลวงหมายเลข 32 (บางปะอิน) จำนวน 541,620 คัน, ทางหลวงหมายเลข 347 (บางปะอิน) จำนวน 150,222 คัน, ทางหลวงหมายเลข 340 (บางบัวทอง) จำนวน 155,067 คัน, ทางหลวงหมายเลข 4 (นครชัยศรี) จำนวน 444,586 คัน, ทางหลวงหมายเลข 35 (สมุทรสาคร) จำนวน 398,748 คัน, ทางหลวงหมายเลข 1 (วังน้อย) จำนวน 494,366 คัน, ทางหลวงหมายเลข 305 (องค์รักษ์) จำนวน 156,657 คัน, ทางหลวงหมายเลข 304 (มีนบุรี) จำนวน 299,698 คัน, ทางหลวงหมายเลข 34 (สมุทรปราการ) จำนวน 840,444 คัน และทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (ด่านลาดกระบัง) จำนวน 485,524 คันคำพูดจาก ทดลองสล็อต ใหม่ล่าสุด

นอกจากนี้ได้สรุปสถิติอุบัติเหตุบนทางหลวงแผ่นดินช่วงวันหยุดต่อเนื่องวันฉัตรมงคล ระหว่างวันที่ 4-7 พ.ค. 66 สะสมรวม 4 วัน พบว่า มีการเกิดอุบัติเหตุจำนวน 133 ครั้ง เสียชีวิต 24 ราย บาดเจ็บ 131 ราย โดยสาเหตุเกิดจากขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดถึง 91 ครั้ง ยานพาหนะที่เกิดเหตุมากที่สุดคือ รถกระบะ 80 คัน ช่วงเวลาที่เกิดเหตุมากสุดคือ เวลา 13.01-14.00 น. และ เวลา 15.01-16.00 น. จำนวน 14 ครั้ง โดยเกิดอุบัติเหตุทางตรง 96 ครั้ง ซึ่งทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 ตอนแขวงคลองสองต้นนุ่น-พิมพา เกิดอุบัติเหตุมากสุด 6 ครั้ง ไม่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ